เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 อธิบดีกรมสรรพากรได้แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการการปรับปรุงมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อเพิ่มแรงจูงใจของการลงทุนในกองทุนรวมไทย เพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยแจ้งว่า “กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการใช้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกบรรลุเป้าหมายด้านความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับความยั่งยืนของประเทศ จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรเพื่อเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่การลงทุนใน Thai ESG เฉพาะหน่วยลงทุนที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 69 ดังนี้
1. เพิ่มวงเงินการหักลดหย่อน
เดิม สามารถหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 100,000 บาท เป็น
ใหม่ สามารถหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินพึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 300,000 บาท
2. ลดระยะเวลาถือหน่วยลงทุน
เดิม ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปี และถ้าถือหน่วยลงทุนไว้ครบ 8 ปี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ Capital Gains จากการขายหน่วยลงทุนคืน
ใหม่ ต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี และถ้าถือหน่วยลงทุนไว้ครบ 5 ปี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ Capital Gains จากการขายหน่วยลงทุนคืน
รายะเอียดตาม https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/news/2567thai/news24_2567.pdf