จดหมายข่าวภาษีสำนักกฎหมายธรรมนิติ
DLO’S Tax Newsletter
ฉบับที่ 134 เดือนกันยายน 2565
กฎหมายใหม่ล่าสุด
- การมอบอำนาจให้สรรพากรพื้นที่สั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร
- การมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการกองบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์สั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร
- หลักเกณฑ์และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
- หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการบริจาคให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าและบริจาคสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ของคนต่างด้าวประเภทผู้พำนักระยะยาว
ข่าวภาษี
–
คำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9687/2559
ระหว่าง บริษัท ร. โจทก์
กรมสรรพากร จำเลย
เรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีนิติบุคคลให้บริการการประกอบโรคศิลปะ
กฎหมายใหม่ล่าสุด
1.การมอบอำนาจให้สรรพากรพื้นที่สั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.346/2565 มีสาระสำคัญเป็นการมอบอำนาจให้สรรพากรพื้นที่สั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากรในการพิจารณาคำขอของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ขออนุมัติเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรตามคำร้องขออนุมัติเป็นผู้ประกอบการใหม่ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 413)
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3xxtDit
2.การมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการกองบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์สั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.347/2565 มีสาระสำคัญเป็นการมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการกองบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์สั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ในเรื่องดังต่อไปนี้
1) พิจารณาคำร้องขอขยายกำหนดเวลาในการยื่นแสดงรายการภาษี การชำระภาษี การนำส่งภาษี หรือการยื่นรายการ บัญชีหรือรายงานตามประมวลรัษฎากรผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์
2) ลงนามในหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3YCftsl
3.กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 42) กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐานการบริจาคต่อพนักงานประเมินและให้ใช้ข้อมูลการบริจาคอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3IxQmBq
4.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการบริจาคให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 43) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการบริจาคให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยต้องบริจาคเป็นเงินเท่านั้น โดยการบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และการยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทรัพย์หรือสินค้า ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3IsK06b
5.กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าและบริจาคสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 44) กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าและบริจาคสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกำหนดให้ผู้นำเข้าต้องระบุในใบขนสินค้าขาเข้าโดยมีข้อความว่า “บริจาค COVID-19” และมีเอกสารเป็นหนังสือจากผู้รับบริจาคซึ่งพิสูจน์การรับบริจาคสินค้านำเข้าจากผู้บริจาคได้ เว้นแต่ ผู้รับบริจาคได้ทำการรับบริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ให้ใช้ข้อมูลการบริจาคที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3Ix4PgX
6.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ของคนต่างด้าวประเภทผู้พำนักระยะยาว
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 427) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ของคนต่างด้าวประเภทผู้พำนักระยะยาว โดยจะได้รับสิทธิลดอัตราหรือยกเว้นภาษีเงินได้ต่อเมื่อเป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย และยื่นแบบ ภ.ง.ด. 95 สำหรับปีภาษีที่ประสงค์จะใช้สิทธิลดอัตราหรือยกเว้นภาษีเงินได้ตามกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือที่ได้รับการขยายกำหนดเวลา
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3YCbFXZ
ข่าวภาษี
–
คำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9687/2559
ระหว่าง บริษัท ร. โจทก์
กรมสรรพากร จำเลย
เรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีนิติบุคคลให้บริการการประกอบโรคศิลปะ
ประเด็นข้อพิพาท : นิติบุคคลประกอบกิจการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากการให้บริการการประกอบโรคศิลปะ ตามมาตรา 81 (1) (ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่
ข้อเท็จจริง : โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบกิจการรับฟอกไต ล้างไต ให้แก่ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โจทก์มีสถานประกอบการ 2 แห่ง ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลโดยมีสัญญาเปิดศูนย์ไตเทียม และสัญญาเช่าเครื่องไตเทียม โจกท์ขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ชำระเกินต่อจำเลย แต่เจ้าพนักงานของจำเลย เห็นว่าการประกอบกิจการของโจทก์ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร จึงประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินเพิ่มและเบี้ยปรับสำหรับเดือนภาษีมกราคม 2551 ถึงเดือนภาษีธันวาคม 2551
คำพิพากษา : ศาลฎีกาเห็นว่า ในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการเป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเมื่อพิจารณาจากนิยามของผู้ประกอบการตามมาตรา 77/1 (5) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งกำหนดไว้ว่า “บุคคลซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ…” แสดงให้เห็นว่าความประสงค์จะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพจากผู้ประกอบการ โดยไม่คำนึงว่าผู้ประกอบการนั้นเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลหรือนิติบุคคล เมื่อการให้บริการการประกอบโรคศิลปะ การสอบบัญชีและการว่าความที่จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (1) (ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร มิได้จำกัดเฉพาะผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้สอบบัญชีและผู้ว่าความ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ให้บริการการประกอบโรคศิลปะ จึงเป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลหรือนิติบุคคล เช่นนี้โจทก์จึงได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเนื่องจากเป็นการให้บริการการประกอบโรคศิลปะ ตามมาตรา 81 (1) (ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร
ความเห็นของผู้เขียน : ที่ปรึกษาเห็นพ้องกับคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ว่าบุคคลผู้ประกอบกิจการโรคศิลปะไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้นที่จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ถึงแม้โจทก์มีฐานะเป็นนิติบุคคลซึ่งมิอาจประกอบวิชาชีพหรือโรคศิลปะตามมาตรา 40 (6) แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นประกอบโรคศิลปะ เพราะเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของบุคคลธรรมดาที่จะขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากนิยามของผู้ประกอบการตามมาตรา 77/1 (5) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งกำหนดไว้ว่า “บุคคลซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ…” แล้ว หากจะตีความให้บุคคลหมายถึงเฉพาะบุคคลธรรมดาอย่างเดียว ย่อมขัดต่อความประสงค์จะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพจากผู้ประกอบการอย่างทั่วถึง และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลได้ เมื่อโจทก์เป็นนิติบุคคลก็ย่อมมีฐานะเป็นบุคคลหรือผู้ประกอบการอันอาจบริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพได้เช่นกัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าการให้บริการรักษาคนไข้กระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไตที่เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะจากคณะกรรมการวิชาชีพโดยตรงอันเป็นวัตถุประสงค์หลักที่กำหนดให้กิจการประกอบโรคศิลปะเป็นสำคัญแล้วและการกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกิจการโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ประกอบการให้บริการการประกอบโรคศิลปะอันมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) (ฌ) แห่งประมวลรัษฎากรจากการประกอบกิจการดังกล่าวได้
อนึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงความเห็นทางกฎหมายของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งกฎหมายภาษีอากรเป็นกฎหมายที่ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามการตีความกฎหมายในมุมมองที่แตกต่างภายใต้บทบัญญัติกฎหมายเดียวกัน การหยิบยกคำพิพากษาศาลฎีกานี้ในการนำเสนอนี้มีเพียงวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจกฎหมายภาษีอากรมากขึ้น และเสียภาษีอากรได้อย่างถูกต้องเท่านั้น
ศุภชัย สังข์มงคล
หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมใด ๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากร สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด
2/2 อาคารภักดี ชั้น 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
หรือโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 0-2680-9751, 0-2680-9725
Email: wannipas@dlo.co.th