จดหมายข่าวภาษีสำนักกฎหมายธรรมนิติ เดือน พฤศจิกายน 2567

จดหมายข่าวภาษีสำนักกฎหมายธรรมนิติ

DLO’s Tax Newsletter

 

ฉบับที่ 160 เดือนพฤศจิกายน 2567

 

กฎหมายใหม่ล่าสุด

 

 

ข่าวภาษี

     1. การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินชดเชยเยียวยาที่ได้รับจากกรมประมงตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน

     เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินชดเชยเยียวยาที่ได้รับจากกรมประมงตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน

     ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3RTSTcp

     2. การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย

     เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ โดยเป็นการปรับปรุงการให้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund หรือ TESG)

     ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก https://bit.ly/3RTSTcp

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่   5204/2538

ระหว่าง                         บริษัท ซ.                                               โจทก์

                                  กรมสรรพากร                                           จำเลย

เรื่อง      อำนาจประเมินภาษีของเจ้าพนักงานประเมิน กรณีไม่ยื่นรายการซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการคำนวณภาษีตามมาตรา 71 (1)

ประเด็นข้อพิพาท       :   การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลเกินกำหนด เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานประเมินใช้อำนาจประเมินภาษีตามมาตรา 71 (1) ได้หรือไม่

คำพิพากษา              :  เมื่อมีเหตุใดเหตุหนึ่งใน 3 เหตุตามประมวลรัษฎากร มาตรา 71 (1) เจ้าพนักงานประเมินก็มีอำนาจประเมินภาษีได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเหตุครบทั้ง 3 ประการ แม้เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยจะได้เรียกให้จำเลยส่งเอกสารต่าง ๆ ไปเพื่อตรวจสอบ แต่เมื่อได้ความแน่ชัดแล้วว่า โจทก์ไม่ได้ยื่นรายการที่จำเป็นต้องใช้ในการคำนวณภาษี อันเป็นเหตุหนึ่งที่เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยจะใช้อำนาจประเมินภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 71 (1) ได้แล้ว ก็หาจำเป็นที่เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยจะต้องทำการตรวจสอบไต่สวนหาความจริงจากเอกสารที่โจทก์ส่งมอบ การส่งมอบเอกสารของโจทก์ไม่ทำให้อำนาจการประเมินของเจ้าพนักงานดังกล่าวหมดสิ้นไป

     โจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นรายการซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการคำนวณภาษีภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี หากไม่ยื่นภายในกำหนดเจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 71 (1) ทันที โจทก์ยื่นรายการเกินกำหนดเวลาไป เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยจึงมีอำนาจประเมินได้ตามมาตรา 71 (1) การยื่นรายการของโจทก์ในภายหลังไม่อาจลบล้างอำนาจของเจ้าพนักงานประเมินของจำเลยได้

 

ความเห็นของผู้เขียน    :   ผู้เขียนเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลฎีกาข้างต้น เนื่องจาก การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น จะต้องกระทำภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีที่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้วว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ได้ยื่นรายการที่จำเป็นต้องใช้ในการคำนวณภาษี ซึ่งถือเป็นเหตุหนึ่งที่เจ้าพนักงานประเมินจะใช้อำนาจประเมินภาษีตามมาตรา 71 (1) ได้ แม้ต่อมาภายหลังจากครบกำหนดดังกล่าวแล้ว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะได้ยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานประเมินก็ตาม แต่เจ้าพนักงานประเมินก็ไม่จำต้องตรวจสอบไต่สวนหาความจริงจากเอกสารนั้นอีก ดังนั้น แม้จะได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว แต่เมื่อเป็นการยื่นหลังจากพ้นกำหนดหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีแล้ว กรณีจึงไม่สามารถลบล้างอำนาจของเจ้าพนักงานประเมินได้ และไม่ทำให้อำนาจการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินดังกล่าวที่มีอยู่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วหมดสิ้นไปแต่อย่างใด

     อนึ่ง กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงความเห็นทางกฎหมายของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งกฎหมายภาษีอากรเป็นกฎหมายที่ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามการตีความกฎหมายในมุมมองที่แตกต่างภายใต้บทบัญญัติกฎหมายเดียวกัน การหยิบยกคำพิพากษาศาลฎีกานี้ในการนำเสนอมีเพียงวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจกฎหมายภาษีอากรมากขึ้น และเสียภาษีอากรได้อย่างถูกต้องเท่านั้น

 

ฉวีวรรณ อรัญเยาว์