กรมสรรพากรได้แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.1/2528 โดยออก ท.ป.299/2561 เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์สิทธิสำหรับการรับรู้รายได้ค่าเช่า โดยให้ผู้ประกอบซึ่งเป็นผู้ให้เช่า/ผู้เช่า สามารถเลือกใช้วิธีการอื่นที่เหมาะสมตามวิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป แทนการคำนวณรายได้กละรายจ่ายตามส่วนแห่งระยะเวลาการให้เช่าทรัพย์สินนั้นได้
แต่ถ้าได้เลือกใช้วิธีการใดมาแล้วให้ใช้วิธีการนั้นตลอดไป หากประสงค์จะเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ในการคำนวณรายได้และรายจ่ายดังกล่าวสามารถขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากรได้
โดยเนื้อหาของกฎหมายที่แก้ไขมีดังนี้
“3.4 การคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งประกอบกิจการให้เช่าทรัพย์สิน ให้ใช้เกณฑ์สิทธิตามข้อ 2 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ต้องนำรายได้ค่าเช่าหรือค่างวดและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องมารวมคำนวณเป็นรายได้และรายจ่ายในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีตามส่วนแห่งระยะเวลาการให้เช่าทรัพย์สิน หรือตามเกณฑ์อื่นที่เหมาะสมตามวิธีการ ทางบัญชีที่รับรองทั่วไป
การคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้เช่าทรัพย์สิน ให้ใช้เกณฑ์สิทธิตามข้อ 2 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องนำรายจ่าย ค่าเช่าหรือค่างวดและรายจ่ายที่เกี่ยวข้องมารวมคำนวณเป็นรายจ่ายในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีตามส่วนแห่งระยะเวลาการเช่าทรัพย์สิน หรือตามเกณฑ์อื่นที่เหมาะสมตามวิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป
กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามวรรคหนึ่ง และวรรคสอง ได้เลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อคานวณรายได้และรายจ่ายในการคำนวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้แล้ว ให้ใช้วิธีนั้นตลอดไป เว้นแต่จะได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงจากอธิบดีกรมสรรพากร”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก : กรมสรรพากร