เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. มาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกรณีการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
2. มาตรการการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) โดยให้กระทรวงการคลังไปหารือร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทยต่อไป
3. มาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage)
4. หลักการให้มีการออมภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
สำหรับมาตรการทางด้านภาษีอากรนั้นมีรายละเอียดเบื้องต้นว่า จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่นายจ้างโดยกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือนและค่าจ้างสำหรับการจ้างบุคลากรผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) ซึ่งมีอัตราค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 โดยนายจ้างสามารถขอใช้สิทธิได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมด โดยลูกจ้างนั้นจะต้องไม่เป็นผู้ถือหุ้นของกิจการ กรรมการ ผู้บริหาร หรือเคยเป็นผู้บริหารของกิจการ
ติดตามรายละเอียดได้จาก https://goo.gl/8e9KY5
(ที่มา มติการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 หัวข้อ กฎหมาย เรื่องที่ 1. เรื่อง มาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ (ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ พ.ศ. … ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ พ.ศ. … และร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ …) พ.ศ. …)