จดหมายข่าวภาษีสำนักกฎหมายธรรมนิติ
DLO’S Tax Newsletter
ฉบับที่ 68 เดือนสิงหาคม 2559
กฎหมายใหม่ล่าสุด
ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่รัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ
พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 614) พ.ศ. 2559 ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้แก่รัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศที่ได้ส่งมอบและชำระราคาแล้วก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ แต่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากทางราชการสั่งระงับไว้ ซึ่งทำให้การจดทะเบียนและการทำนิติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/GWwiFs
ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาสื่อฯ, ศิลปะและวัฒนธรรม
พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 615) พ.ศ. 2559 ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาค 2 เท่า เมื่อบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย กองทุนส่งเสริมงานจดหมายเหตุ หรือกองทุนโบราณคดี ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
– สำหรับบุคคลธรรมดาต้องบริจาคเป็นเงินเท่านั้น
– สำหรับนิติบุคคลบริจาคเป็นเงินหรือทรัพย์สินก็ได้
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/KZ3bzF
ขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคให้แก่สถานศึกษา
พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 616) พ.ศ. 2559 ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาค 2 เท่า เมื่อบริจาคให้แก่สถานศึกษา แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนกวดวิชา ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2561 ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเดิมพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 558) พ.ศ. 2556 เคยมีผลและสิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/BtX7RT และ http://goo.gl/e7gWz0 และ http://goo.gl/qVHMZr
เปลี่ยนหลักเกณฑ์การถือ LTF จาก 5 ปี เป็น 7 ปี
กฎกระทรวง ฉบับที่ 317 (พ.ศ. 2559) กำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สำหรับการซื้อ LTF ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งบุคคลธรรมดาต้องซื้อและถือหน่วยลงทุนนั้นไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน (เดิม 5 ปีปฏิทิน) จึงจะได้รับยกเว้นเงินได้ ดังนี้
1) เงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อ LTF
2) เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจากการขาย LTF
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/f8TbZK
ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อซื้อสินค้า OTOP
กฎกระทรวง ฉบับที่ 318 (พ.ศ. 2559) กำหนดให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับค่าซื้อสินค้า OTOP ในระหว่างวันที่ 1 – 31 สิงหาคม 2559 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
1) เป็นสินค้า OTOP ที่ได้รับการรับรองและลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2) จ่ายค่าสินค้า OTOP ให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
3) ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงิน (ฉบับที่ 272)
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/pPUFLt และ http://goo.gl/uBveJl
ขยายระยะเวลาขอคืนค่าอากรแสตมป์ จนถึง 31 กรกฎาคม 2559
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขยายระยะเวลาขอคืนค่าอากรแสตมป์จากการปิดอากรแสตมป์ลงบนตราสารที่ต้องชำระค่าอากรเป็นตัวเงิน ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2559 สำหรับตราสารดังนี้
1) ตราสารเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ ที่มีค่าเช่าตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
2) ตราสารจ้างทำของที่มีสินจ้างตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นตราสารที่กระทำตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2558 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2559 จึงจะขยายระยะเวลาให้ขอคืนค่าอากรแสตมป์ที่ปิดลงบนตราสารที่ต้องชำระค่าอากรเป็นตัวเงิน
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/tWURrM และ https://goo.gl/Gbn6yq
ข่าวภาษี
กระทรวงการคลังสั่งสรรพากรขยายฐานการจัดเก็บภาษีจากบริษัทนอมินี และผู้ประกอบการอี – คอมเมิร์ซ
ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าได้สั่งให้กรมสรรพากรไปตรวจสอบการเสียภาษีของบริษัทนอมินีทั้งหมดในทุกภาคธุรกิจ โดยเริ่มตรวจสอบการเสียภาษีของนอมินีบริษัทท่องเที่ยวทั้งหมดก่อน
นอกจากนี้ ยังได้มีการตั้งคณะกรรมการเก็บภาษีธุรกิจอี – คอมเมิร์ซ (e – Commerce) เพื่อร่วมหาแนวทางการเก็บภาษีใหม่ เนื่องจากยังพบว่ามีการรั่วไหลมาก ทำให้มีการเก็บภาษีได้น้อย
ติดตามรายละเอียดได้จาก http://goo.gl/qzuA26
คำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจ
คำพิพากษาฎีกาที่ 13986/2558
ระหว่าง บริษัท ฮ. โจทก์
กับ กรมสรรพากร จำเลย
เรื่อง การจำหน่ายเงินออกจากประเทศไทย(ประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ)
การจัดเก็บภาษีจากการจำหน่ายเงินกำไรตามมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร กฎหมายกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จำหน่ายเงินกำไรออกจากประเทศไทย จะต้องหักภาษีจากเงินที่จำหน่ายออกไปในอัตราร้อยละ 10 แล้วนำส่งภาษีภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จำหน่ายเงินกำไร ตามประกาศกระทรวงการคลัง ฉบับลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2545 อันแสดงความหมายอยู่ในตัวว่า เมื่อมีการส่งเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยเมื่อใด ภาระภาษีย่อมเกิดขึ้นเมื่อนั้น
การที่ลูกค้าได้โอนเงินค่าบริการให้แก่โจทก์ในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยตรงหลายครั้ง เงินค่าบริการที่จำหน่ายออกไปมีส่วนของกำไรหรือถือว่าเป็นกำไรรวมอยู่ด้วย จึงต้องถือว่าสาขาของโจทก์ในประเทศไทยเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไรหรือเงินประเภทอื่นใดที่กันไว้จากกำไรหรือที่ถือได้ว่าเป็นกำไรออกไปจากประเทศไทยตามมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร สาขาของโจทก์ในประเทศไทยจึงต้องหักภาษีจากจำนวนเงินที่ได้จำหน่ายออกไป โดยถือว่าวันที่ลูกค้าโอนเงินค่าบริการให้แก่โจทก์ในประเทศสหรัฐอเมริกาในแต่ละครั้งเป็นวันที่สาขาของโจทก์จำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตาม มาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ในกรณีที่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เงินค่าบริการที่ลูกค้าชำระให้แก่โจทก์ในแต่ละครั้งมีส่วนที่เป็นกำไรที่จำหน่ายออกไปเป็นจำนวนเท่าใด จึงเห็นควรให้นำเงินค่าบริการที่ลูกค้าชำระให้แก่โจทก์ในต่างประเทศตลอดปี 2545 จำนวน 2,000 ล้านบาท โดยถือเป็นกำไรที่จำหน่ายออกไป 420 ล้านบาท (ร้อยละ 21 % ของรายได้) แล้วนำค่าบริการที่ลูกค้าชำระแก่โจทก์ที่ต่างประเทศในแต่ละเดือนมาหาค่าเฉลี่ย เพื่อหาเงินกำไรที่สาขาจำหน่ายออกไปในแต่ละเดือน จากนั้นจึงนำมาหักภาษีในอัตราร้อยละ 10 และนำส่งอำเภอท้องที่พร้อมยื่นแบบรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและการจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) ต่อไป
หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติมใด ๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากร สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด 2/2 อาคารภักดี ชั้น 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 หรือโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 0-2680-9751, 0-2680-9753 Email: budhimak@dlo.co.th, chatwaleem@dlo.co.th
บริการกฎหมายภาษีอากร :
1. งานให้คำปรึกษาภาษี
2. งานขอคืนภาษี
3. งานวางแผนภาษี
4. งานตรวจสอบภาษี
5. งานกรอกแบบแสดงรายการภาษี
6. งานให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่
7. งานอุทธรณ์การประเมินภาษี
8. งานคดีภาษีอากร
เป็นต้น
สอบถามบริการโปรดติดต่อ :