วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552 นาย สาธิต รังคสิริ ที่ปรึกษายุทธศาสตร์ด้านการจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร กล่าวว่า ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย มักจะมีธุรกิจและบุคคล หาช่องทางหลีกเลี่ยงภาษี โดยอ้างเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งที่เศรษฐกิจเพิ่งจะมีปัญหาช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2551 สำหรับการยื่นแบบในปีนี้ หากธุรกิจใดยังมีกำไร ผลประกอบการดี แต่ยื่นเสียภาษีน้อยกว่าปกติ ก็ต้องถูกจับตามอง
กรมสรรพากร เตือนประชาชนว่า อย่าเห็นประโยชน์จากกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ขอหมายเลขบัตรประชาชน ยื่นแบบในลักษณะทุจริตด้วยการแจ้งรายได้และค่าใช้จ่ายอันเป็นเท็จ เพื่อขอคืนภาษีจากรัฐบาล เพราะจะมีข้อมูลจากบริษัทหรือหน่วยงานอยู่แล้วว่า เข้าข่ายต้องเสียภาษีหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา
ส่วนการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้ ประจำปี 2551 (ภงด.) จะให้ประชาชนยื่นแบบตั้งแต่เดือน มกราคม-มีนาคม 2552 โดยประชาชนที่ยื่นแบบฯ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ที่รัฐบาลให้ถึง 20 รายการ เช่น ค่าลดหย่อนจากการประกันชีวิตจาก 50,000 บาท เพิ่มเป็น 100,000 บาท การเลี้ยงดูบิดามารดา อายุ 60 ปีขึ้นไป ค่าลดหย่อนจากการบริจาคด้านการกีฬา 1.5 เท่า ของเงินบริจาค ด้านการศึกษา 2 เท่า
การซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ ภาระดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และอื่นๆ จึงต้องการให้ใช้สิทธิอย่างครบถ้วน สำหรับภาษีเงินปันผล จากการซื้อหุ้น การฝากเงิน การลงทุนในตราสารประเภทต่างๆ จะมีช่องให้กากบาทเลือก ระบบจะคำนวณให้ทันที โดยมีข้อมูลจากหน่วยงานที่รับฝากเงินส่งให้กรมสรรพากร การทำให้เสียภาษีน้อยกว่าความเป็นจริง มีความผิดตามกฎหมายหรือหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดได้
นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับเงินได้ในปี 2552 กฎหมายเปิดทางให้ประชาชน สามารถนำเงินภาษีหลังการคำนวณค่าใช้จ่ายสุทธิแล้ว บริจาคให้พรรคการเมืองที่ชื่นชอบ โดยจะมีช่องว่างในอินเทอร์เนตสำหรับการยื่นแบบออนไลน์และแบบเอกสาร
มีพรรคการเมืองให้เลือก เพื่อต้องการส่งเสริมให้ประชาชน
ติดตามการดำเนินงานของพรรคการเมืองให้พัฒนามากขึ้น
ดังนั้น มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศเพื่อลดภาระภาษี
ให้ประชาชนในช่วงเดือนมกราคมนี้ จะให้มีผลสำหรับภาษีของปี 2552
ซึ่งจะใช้ยื่นแบบในต้นปี 2553 จึงไม่อยากให้ประชาชนสับสนในการยื่นแบบภาษีในปีนี้
ที่มา –นสพ.โพสต์ทูเดย์