ถาม: กรณีบริษัทมีเงินได้จากการประกอบกิจการหลังจากศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลาย และอยู่ในระหว่างการจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ บริษัทต้องนำเงินได้ดังกล่าวมาเสียภาษีหรือไม่ อย่างไร
ตอบ: บริษัทต้องนำเงินได้ที่ได้รับภายหลังจากการที่ศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลายมาเสียภาษีตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร เนื่องจากบริษัทยังคงมีสภาพเป็นบริษัทอยู่ อีกทั้งไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดให้บริษัทที่ถูกพิพากษาให้ล้มละลายและอยู่ระหว่างการจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4275/2560 กรณีที่ศาลล้มละลายกลางมีคำพิพากษาให้บริษัท ล. ล้มละลาย และอยู่ในระหว่างการจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายหลังจากนั้นบริษัท ล. มีเงินได้จากค่าเช่า ค่าบริการและดอกเบี้ย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมายื่นแบบแสดงรายการภาษีฯ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีฯ เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินให้บริษัท ล. เสียภาษีจากเงินได้ดังกล่าวได้ เนื่องจากบริษัท ล. ยังคงสภาพเป็นบริษัทอยู่ อีกทั้งไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดให้บริษัทที่ถูกพิพากษาให้ล้มละลายและอยู่ระหว่างการจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงต้องปฏิบัติตามประมวลรัษฎากรเช่นเดียวกับกรณีก่อนศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด